- model CaseOyster, 42 มม., ทองคำขาว
- oyster Architectureตัวเรือนตรงกลาง Monobloc, ด้านหลังตัวเรือนและเม็ดมะยมที่ยึดด้วยสกรู
- diameter42 มม.
- materialทองคำขาว 18 กะรัต
- bezelขอบหน้าปัดแสดงเวลา 60 นาทีหมุนได้สองทิศทาง พร้อมขอบ Cerachrom เซรามิกสีดำด้าน ขัดเงา สัญลักษณ์และตัวเลขลักษณะนูน
- winding Crownระบบกันน้ำ Triplock สามชั้นแบบยึดด้วยสกรู
- crystalเลนส์ Cyclops ทำจากแซฟไฟร์ป้องกันรอยขีดข่วนครอบอยู่เหนือวันที่
- water Resistanceกันน้ำได้จนถึงระดับ 100 เมตร / 330 ฟุต
- movementPerpetual, กลไก, ระบบไขลานอัตโนมัติ
- calibre3235, ผลิตโดย Rolex
- precision-2/+2 วินาที/วัน หลังจากงานประกอบตัวเรือน
- oscillatorแฮร์สปริง Parachrom สีฟ้าต้านสนามแม่เหล็ก ตัวดูดซับแรงกระแทก Paraflex สมรรถนะสูง
- windingการไขลานอัตโนมัติสองทิศทางด้วยโรเตอร์ Perpetual
- power Reserveประมาณ 70 ชั่วโมง
- braceletOysterflex
- bracelet Materialตัวล็อกโลหะยืดหยุ่นหล่อด้วยอีลาสโตเมอร์สมรรถนะสูง
- claspชุดตัวล็อกนิรภัย Oysterlock แบบพับได้พร้อมระบบขยายสาย Rolex Glidelock
- dialสีดำ
- detailsการแสดงผล Chromalight ที่อ่านได้ง่ายพร้อมพรายน้ำสีฟ้าที่ส่องสว่างนาน
- certificationSuperlative Chronometer (COSC + การรับรองของ Rolex หลังจากงานประกอบตัวเรือน)
สาย Oysterflex
สายนาฬิกา Oysterflex โฉมใหม่ของ Yacht-Master ที่ได้รับการพัฒนาและจดสิทธิบัตรโดย Rolex นั้นเป็นสายนาฬิกาแนวสปอร์ตซึ่งเป็นอีกทางเลือกที่นอกเหนือไปจากสายนาฬิกาโลหะ สายนาฬิกาประกอบเข้ากับตัวเรือนและชุดตัวล็อกนิรภัย Oysterlock ด้วยแผ่นไทเทเนียมและแผ่นโลหะนิกเกิลอัลลอยที่มีความยืดหยุ่น ตัวล็อกทำจากอีลาสโตเมอร์สีดำอันทรงสมรรถนะ ทนทานต่อสภาพแวดล้อมเป็นพิเศษ และกระชับเข้ากับข้อมือของผู้สวมใส่นาฬิกา ด้านในของสาย Oysterflex ประกอบด้วยระบบหนุนรองตามแนวนอนที่ Rolex ได้ทำการจดสิทธิบัตรไว้ เพื่อให้สวมใส่สบายและช่วยยึดนาฬิกาบนข้อมือของผู้สวมใส่ให้คงที่ พร้อมกับ ทองคำขาว 18 กะรัต ชุดตัวล็อกนิรภัย Oysterlock และทำงานร่วมกับระบบขยายสาย Rolex Glidelock ที่ออกแบบและจดสิทธิบัตรโดยแบรนด์เช่นกัน งานประดิษฐ์กลไกฟันจักรที่ประกอบอยู่ภายใต้ชุดตัวล็อกนี้ช่วยให้สามารถปรับขยายความยาวของสายนาฬิกาเพิ่มขึ้นได้ประมาณ 2.5 มม. จากความยาวทั้งหมด 15 มม. โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ
ทองคำขาว 18 กะรัต
จากการใช้งานโรงหล่อเฉพาะของแบรนด์ ทำให้ Rolex สามารถหล่อโกลด์อัลลอย 18 กะรัต คุณภาพสูงสุดได้อย่างเหนือชั้น ตามสัดส่วนของเงิน ทองแดง แพลทินัม หรือพาลาเดียมที่เติมเข้าไป จะได้ทอง 18 กะรัตประเภทต่างๆ เช่น ทองคำ ทองคำขาว และ Everose gold โดยจะผลิตจากโลหะที่มีความบริสุทธิ์มากที่สุดเพียงเท่านั้น และผ่านการตรวจสอบภายในห้องปฏิบัติการของ Rolex อย่างพิถีพิถันด้วยเครื่องมือทันสมัย ก่อนที่จะมีการหล่อและขึ้นรูปทองคำ ด้วยความใส่ใจในคุณภาพของทุกขั้นตอน ความมุ่งมั่นของ Rolex ในด้านความเป็นเลิศนั้นเริ่มต้นนับตั้งแต่แหล่งกำเนิด
Bidirectional Rotatable Bezel
ขอบหน้าปัดแสดงเวลา 60 นาทีแบบหมุนได้สองทิศทางของ Yacht-Master รังสรรค์ขึ้นจากโลหะมีค่าทั้งหมด หรือติดตั้งด้วยขอบตัวเรือน Cerachrom จากเซรามิกที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ตัวเลขและเครื่องหมายอื่นๆ เป็นตัวนูนขัดเงาและมีความโดดเด่นตัดกับพื้นหลังด้านและมีผิวพ่นทราย ขอบหน้าปัดนี้มาพร้อมฟังก์ชันการทำงานที่ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถคำนวณ เช่น เวลาล่องเรือระหว่างทุ่นสองทุ่น จึงนับว่าเป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนที่สำคัญของนาฬิการุ่นนี้ที่มีเอกลักษณ์เด่นสะดุดตา
นาฬิกาในคลังสินค้า
นาฬิกา Rolex ทุกเรือนได้รับการรังสรรค์ด้วยมืออย่างประณีตเพื่อรับประกันถึงคุณภาพอันสมบูรณ์แบบ นับเป็นเรื่องธรรมชาติของการมีมาตรฐานระดับสูงที่จำนวนการผลิตมักได้รับการจำกัด และบางครั้งนาฬิกา Rolex ก็เป็นที่ต้องการในปริมาณที่มากกว่า
ดังนั้นนาฬิกาบางรุ่นอาจมีไม่เพียงพอในการจำหน่าย นาฬิกาใหม่ของ Rolex จะมีการจำหน่ายโดยตัวแทนจำหน่ายทางการของ Rolex เพียงเท่านั้น พวกเขาได้รับการส่งมอบเป็นประจำและจัดการการขายให้กับลูกค้าอย่างอิสระ
นำสว่าง ตัวแทนจำหน่ายทางการของ Rolex มีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายตัวแทนจำหน่าย Rolex อย่างเป็นทางการ และสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับนาฬิกา Rolex ที่มีอยู่ในคลังสินค้า
นาฬิกา Oyster Perpetual Yacht-Master 42 โฉมใหม่ มาพร้อมกับไทเทเนียม RLX ที่บางเบาแต่ทนทาน ถือเป็นเพื่อนรู้ใจสำหรับผู้ใฝ่หาอิสรภาพแห่งการเคลื่อนไหว นาฬิการุ่นนี้ได้หลอมรวมความเป็นเลิศของการผลิตนาฬิกาเข้ากับการแข่งขันกีฬาได้อย่างลงตัว จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับโลกที่เปี่ยมไปด้วยความกดดันและแสวงหาความสำเร็จในการแข่งขันเรือใบ
นาฬิกา Yacht-Master 42 โฉมใหม่เป็นนาฬิการุ่นที่สองของ Rolex ที่ผลิตด้วยไทเทเนียม RLX หลังจากรุ่น Oyster Perpetual Deepsea Challenge ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าน้ำหนักที่เบาของนาฬิกาคือคุณภาพที่ต้องให้ความสำคัญอย่างจริงจัง