
Rolex GMT-Master II Oyster, 40 มม., Oystersteel และทองคำ m126713grnr-0001





- reference M126713GRNR
- model Case Oyster, 40 มม., Oystersteel และทองคำ
- water Resistance กันน้ำได้จนถึงระดับ 100 เมตร / 330 ฟุต
- bezel ขอบตัวเรือนแสดงเวลา 24 ชั่วโมงหมุนได้สองทิศทาง ขอบหน้าปัด Cerachrom สองสีทำจากเซรามิกสีเทาและสีดำ ตัวเลขและเครื่องหมายต่างๆ แบบหล่อ
- dial สีดำ
- bracelet Jubilee, ข้อต่อห้าชิ้น
- movement Perpetual, กลไก, ระบบไขลานอัตโนมัติ, ฟังก์ชัน GMT
- calibre กลไกการทำงาน 3285, ผลิตโดย Rolex
- power Reserve ประมาณ 70 ชั่วโมง
- certification Superlative Chronometer (COSC + การรับรองของ Rolex หลังจากงานประกอบตัวเรือน)
ขอบหน้าปัดแสดงเวลา 24 ชั่วโมงแบบหมุนได้
นาฬิการุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าปัดสีดำและขอบหน้าปัด Cerachrom จากเซรามิกสีเทาและสีดำ นอกจากเข็มแสดงชั่วโมง นาที และวินาทีแบบนาฬิกาทั่วไปแล้ว GMT-Master II ยังมีเข็มนาฬิกาปลายลูกศรที่หมุนเป็นวงกลมรอบหน้าปัดทุก 24 ชั่วโมง พร้อมขอบหน้าปัดแสดงเวลา 24 ชั่วโมงที่หมุนได้สองทิศทาง เข็มแสดงเวลา 24 ชั่วโมงที่มีสีที่โดดเด่นจะแสดงเวลาอ้างอิงที่เป็น “ถิ่นพำนัก” ในเขตเวลาที่หนึ่ง ซึ่งอ่านได้จากขีดแบ่งบนขอบตัวเรือน ส่วนเวลาท้องถิ่นของนักเดินทางสามารถปรับตั้งได้อย่างง่ายดายโดยการตั้งแบบ "กระโดดข้าม" ทีละชั่วโมง และเนื่องจากนาฬิกามีกลไกที่ทำงานผ่านเม็ดมะยมไขลาน จึงทำให้เข็มชั่วโมงสามารถปรับเดินหน้าหรือถอยหลังได้โดยไม่ส่งผลต่อเข็มนาทีและเข็มวินาที จึงช่วยให้นักเดินทางสามารถปรับตั้งเวลาเข้ากับเขตเวลาใหม่ได้โดยไม่กระทบต่อความเที่ยงตรงของนาฬิกา

หน้าปัดสีดำ
เฉกเช่นนาฬิกา Rolex สำหรับมืออาชีพทุกเรือน GMT-Master II มาพร้อมหน้าปัดโครมาไลท์ที่ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถอ่านเวลาได้อย่างยอดเยี่ยมในทุกสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะในที่มืด เข็มนาฬิกาขนาดกว้างและเครื่องหมายบอกชั่วโมงในรูปทรงอันเรียบง่าย อาทิ สามเหลี่ยม วงกลม หรือสี่เหลี่ยม ได้รับการเติมด้วยสารเรืองแสงที่ปล่อยแสงสีฟ้าสว่างติดต่อกันเป็นเวลานาน

Yellow Rolesor
ทองคำเป็นสุดยอดของความปรารถนา เนื่องจากความเงางามและคุณค่าในตัว ส่วนสตีลนั้นช่วยเสริมความแข็งแกร่งและความน่าเชื่อถือ เมื่อนำมารวมกัน โลหะทั้งสองจึงผสานคุณสมบัติชั้นเลิศของตนให้เข้ากันได้อย่างลงตัว Rolesor เป็นสัญลักษณ์ที่แท้จริงของ Rolex โดยปรากฏบน Rolex รุ่นต่างๆ ตั้งแต่ต้นทศวรรษที่ 1930 และถูกจดทะเบียนใช้ชื่อดังกล่าวในปี 1933 นับเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของคอลเล็กชัน Oyster Perpetual












